เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2560 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์ใจ ใจเย็น เมธีวิจัยอาวุโส สกว. ได้รับรางวัลชนะเลิศการนำเสนอผลงานในการอบรมเชิงปฏิบัติการทุนโครงการสนับสนุนการสร้างนักวิจัยแกนนำในการสร้างนวัตกรรม หรือ Leaders in Innovation Fellowships (LIF) ซึ่งทุนดังกล่าวสนับสนุนการสร้างศักยภาพความเป็นผู้ประกอบการให้กับนักวิจัยของประเทศไทย และสนับสนุนให้ผลงานวิจัยเกิดการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมถึงการสร้างเครือข่ายของนักวิจัยและผู้ประกอบการในระดับนานาชาติ โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ The Royal Academy of Engineering (RAEng) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักรในโครงการ Newton UK-Thailand Research and Innovation Partnership Fund เวทีนี้มีนักวิจัยไทยที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายรวม 15 คน
ศาสตราจารย์ ดร.พิมพ์ใจ ใจเย็น ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศกล่าวถึงผลงานการตรวจวัดทางชีวภาพแบบการวัดสัญญานเรืองแสง (bioluminescence) ว่าเป็นวิธีที่มีประโยชน์อย่างมากในการศึกษาวิจัยด้านชีวการแพทย์ แต่เนื่องจากวิธีการนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้นักวิจัยส่วนใหญ่ที่มีทุนวิจัยน้อยไม่สามารถใช้เทคนิคดังกล่าวในการวิจัยได้ ปัจจุบันตลาดของการตรวจวัดเช่นนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน งานวิจัยที่พัฒนาขึ้นมีราคาถูกลงจึงส่งผลให้นักวิจัยในประเทศกำลังพัฒนาสามารถใช้การตรวจวัดดังกล่าวเพื่อตรวจสอบยีนหรือโมเลกุลที่เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็ง โรคเขตร้อน และโรคอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่แพร่ระบาดในภูมิภาคของประเทศกำลังพัฒนา ตัวอย่างเช่น งานวิจัยเกี่ยวกับโรคมาเลเรีย ทั้งนี้คณะวิจัยได้ยื่นจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์จากเอนไซม์ลูซิเฟอเรส ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้เป็นเอนไซม์ที่ผลิตแสงและใช้ในการตรวจวัด โดยนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมานี้สามารถลดค่าใช้จ่ายเหลือน้อยกว่าร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์เดิมในท้องตลาด จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับนักวิจัยและยังสามารถขยายตลาดใหม่ ๆ ไปยังกลุ่มนักวิจัยที่มีทุนวิจัยจำกัดได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะพัฒนาให้เอนไซม์ลูซิเฟอเรสนี้สามารถทำงานได้ในสิ่งมีชีวิต เพื่อก่อให้เกิดการเรืองแสงในตำแหน่งที่ต้องการศึกษาโรคในสัตว์ทดลองในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้นักวิจัยสามารถวินิจฉัยโรคและตรวจติดตามผลตอบสนองต่อการรักษาในสัตว์ทดลองโดยไม่จำเป็นต้องฆ่าสัตว์ทดลอง ณ เวลาต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นการช่วยชีวิตสัตว์ทดลองจำนวนมหาศาลและได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าคณะวิจัยมีประสบการณ์สูงเกี่ยวกับการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและส่งเสริมความสำเร็จในเชิงธุรกิจ โดยโปรแกรม การอบรมเชิงปฏิบัติที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ ที่ผ่านมานับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเริ่มต้นในเรื่องการบริหารธุรกิจและทักษะของผู้ประกอบการ การสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการและอาจารย์ผู้สอน รวมถึงการนำเสนอแผนธุรกิจ การเจรจาต่อรอง และการทำข้อตกลง
ถ่ายภาพ : Facebook สกว.
เขียนข่าว : นางสาวพนารัตน์ เตชะเลิศสุวรรณ
เว็บมาสเตอร์ : นางสาวอริศรา เฉิดมนูเสถียร