logo

ภาพข่าวกิจกรรมคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ภาพข่าวและกิจกรรมประจำปี 2558

 

สัมมนาเชิงปฏิบัติการหลักสูตรเสริมศักยภาพการทำงานเป็นทีม (Team Building) ประจำปี 2558

เมื่อวันที่ 27-29 มิถุนายน 2558 ณ โรงแรม Nakakiri Resort and Spa อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กำหนดจัดสัมมนาผู้ปฏิบัติงานประจำปี พ.ศ. 2558 ในหลักสูตร "เสริมศักยภาพการทำงานเป็นทีม (Team Building)"

ในวันแรกของการเดินทางไปศึกษาดูงานภายในโรงงานวุ้นเส้นท่าเรือโดยมีคุณอำพล อิสระกาญจน์กุลเจ้าของโรงงานให้การต้อนรับและบรรยายขั้นตอนการทำวุ้นเส้น เริ่มตั้งแต่การเตรียมถั่วเขียวดิบ ผ่านกระบวนการต่างๆ โดยการแช่ หมัก นวด ตากแห้ง จนได้วุ้นเส้นที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าคุณภาพของวุ้นเส้นท่าเรือเป็นสิ่งที่สำคัญ ทุกคนที่ได้เข้าชมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จากนั้นออกเดินทางไปยังวัดถ้ำเสือซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรีประดิษฐานอยู่บนเนินเขาและมีเจดีย์เกศแก้วปราสาทที่บรรจุพระบรมสาริกธาตุ ชาวคณะวิทย์ฯต่างสักการะและเก็บภาพที่งดงามภายในวัด ช่วงบ่ายเดินทางไปยังถ้ำกระแซซึ่งเป็นสถานที่ๆรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสในอดีตและเส้นทางรถไฟสายมรณะซึ่งได้ก่อสร้างขึ้นในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยคนญี่ปุ่นที่บุกมาฝั่งประเทศไทย หลังจากที่ทุกคนได้เก็บภาพที่สวยงามและความประทับใจเรียบร้อยแล้วจึงเดินทางต่อไปยังที่พัก โรงแรม Nakakiri Resort and Spa และพักผ่อนตามอัธยาศัย โดยช่วงก่อนรับประทานอาหารเย็นมีกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ อาทิกิจกรรมนวดผ่อนคลายร่างกาย กิจกรรมล่องเรือแพแม่น้ำไทรโยค และกิจกรรมขับรถ ATV

ในภาคค่ำโดยศาสตราจารย์ ดร.ศกรณ์ มงคลสุข คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานเปิดงาน โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ แดงติ๊บ รองคณบดีฝ่ายบริหาร กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการสัมมนาเพื่อให้เกิดการทำงานเป็นทีม สร้างขวัญกำลังใจ ในการปฏิบัติงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานมีปฏิสัมพันธ์กัน และสร้างความรักความผูกพันต่อองค์กรและปิดท้ายด้วยการสรุปกิจกรรมตอนกลางวันโดยมีดร.ระพี บุญเปลื้องเป็นพิธีกรดำเนินรายการ นอกจากนั้นภายในงานยังมีการแสดง "เครื่องดนตรีแก้ว (Glass Harp)" จากคุณลุงบุญมี นันทะแสง และการแสดงจากน้องๆโรงเรียนเทพมงคงรังษีในชุด "ระบำไก่ชน" ซึ่งภายในงานนี้ทุกคนได้รับความประทับใจเป็นอย่างมากก่อนที่จะกลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัย

ในวันที่สองของการสัมมนาได้รับความร่วมมือจากคุณสมศักดิ์ ภักดี อดีตลิเกเงินล้านและครูสอนศิลปะจากจังหวัดลพบุรีมาเป็นวิทยากรรับเชิญนำกิจกรรมต่างๆของการสร้างเสริมความสามัคคีและการทำงานเป็นทีมให้ชาวคณะวิทย์ฯได้ร่วมกันทำ ในช่วงแรกมีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 8 กลุ่ม และมีกิจกรรมละลายพฤติกรรม ก่อนที่จะแบ่งไปทำกิจกรรมโครงงานตามกลุ่มและให้เตรียมนำเสนอในตอนบ่าย โดยแต่ละกลุ่มทุกคนต่างก็ให้ความสามัคคีและความร่วมมือกันอย่างดี ในช่วงที่สองเป็นการนำเสนอกิจกรรมโครงงานกลุ่มซึ่งสมาชิกทุกคนให้ความกระตือรือร้นและร่วมแรงร่วมพลังกันอย่างเต็มที่ หลังการนำเสนอโครงงานมีกิจกรรมการนันทนาการ ซึ่งแต่ละกิจกรรมล้วนแล้วแต่เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ การเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน แบบผสมกลมเกลียว การเสียสละเพื่อส่วนรวม การวางแผนในการทำงาน การทำงานเป็นทีม การแบ่งหน้าที่ และเห็นความสำคัญของผู้ร่วมทีมซึ่งสอดคล้องกับแนวอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดล

จากนั้นในช่วงค่ำ เป็นงานปาร์ตี้สังสรรค์ที่เต็มไปด้วยสีสันจากป่าของผู้ร่วมงานในธีมงาน Safari Night Party พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายชนิด ดำเนินรายการโดยดร.ระพี บุญเปลื้องผู้ทำให้งานปาร์ตี้สนุกสนานและเป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีการแสดงจากภาควิชาและหน่วยงาน ได้แก่ ภาควิชาเคมีในชุด "เสือสมิง กระทิงเคมี" งานบริหารในชุด "น้องเจนหลั่นล้า" และจากงานแพทย์ฯในชุด "มนต์เพลงลูกทุ่ง" นอกจากการแสดงดังกล่าวยังมีการประกวดชุดแต่งกายภายในงานโดยผู้เข้าร่วมแข่งขันแต่งกายในชุดต่างๆให้เข้ากับคอนเซ็ปของงานทั้งสัตว์ป่า นายพราน และชาวพื้นเมือง โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ แดงติ๊บ เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ผู้เข้าประกวดทุกคน โดยทีมบริหารได้ร่วมกันสนับสนุนรางวัล เพื่อเป็นขวัญกำลังใจของผู้ร่วมปาร์ตี้สีสันแห่งป่า หลังจากนั้นเป็นการร้องเพลงเทิดพระนามมหิดลเพื่อปิดงานอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงของการร้องเพลงและการผ่อนคลายซึ่งบรรยากาศนั้น เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความอบอุ่น และเป็นกันเองของชาวคณะวิทย์ฯ

วันสุดท้ายของการสัมมนาหลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ได้เดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาดซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับเส้นทางรถไฟสายมรณะในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวคณะวิทย์ฯต่างพากันเก็บภาพและศึกษาข้อมูลประกอบ ก่อนจะแวะรับประทานอาหารกลางวันและซื้อของฝากที่ร้านวุ้นเส้นท่าเรือ และเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ เรียกได้ว่างานนี้ สร้างรอยยิ้ม สร้างเสียงหัวเราะ สร้างความประทับใจ และสร้างความรักความสามัคคีให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่านตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนา โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ จำนวนทั้งสิ้น 260 คน