logo

ภาพข่าวกิจกรรมคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ภาพข่าวและกิจกรรมประจำปี 2556

 

MU RA-SC Research Forum 2/2556

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.30 – 16.00 น. ณ ห้องประชุม 810 ชั้น 8 อาคารเรียนและปฏิบัติการรวมด้านการแพทย์และโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดกิจกรรม MU RA-SC Research Forum ครั้งที่ 2/2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ในการทำวิจัยระหว่างคณาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาระหว่างคณะวิทยาศาสตร์และคณะแพทยศาสตร์ รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศการวิจัยและส่งเสริมการเกิดเครือข่ายวิจัยทั้งภายในคณะฯ และระหว่างสถาบัน โดยมีศาสตราจารย์ นพ. สุรเดช หงส์อิง ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี บรรยายในหัวข้อเรื่อง “Ineffective erythropoiesis in thalassemia: pathophysiology and potential therapy”  ได้เล่าถึงความเป็นมาของงานวิจัยด้านโรคธาลัสซีเมีย โดยเฉพาะโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง หรือเบต้าธาลัสซีเมียฮีโมโกลบินอี  ในปัจจุบัน การรักษาโรคธาลัสซีเมียชนิดดังกล่าวในประเทศไทยใช้วิธีถ่ายเลือดเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ การศึกษากระบวนการเกิด apoptosis ของเซลล์เม็ดเลือดแดงในผู้ป่วยธาลัสซีเมีย อาจนำไปสู่การรักษาชนิดใหม่ เช่น การให้ยาที่ยับยั้งกระบวนการที่ทำให้เกิด apoptosis ควบคู่กับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด จากนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ. ฉัตรชัย เหมือนประสาท ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ บรรยายในหัวข้อเรื่อง “Drug discovery by targeting CFTR chloride channel: from secretory diarrhea to thalassemia”  ได้เล่าถึงการศึกษาสารสกัดจากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการรักษาโรคท้องร่วงที่มีสาเหตุมาจากเชื้อ Vibrio cholerae อาทิ สารสกัดจากหญ้าหวาน เปลือกมังคุด เป็นต้น โดยสารสกัดเหล่านี้มีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของโปรตีนขนส่งคลอไรด์ (CFTR chloride channel)  เรียกว่า CFTR inhibitor นอกจากนี้สารสกัดดังกล่าวยังสามารถยับยั้งการเพิ่มของ ROS (Reactive Oxygen Species) ในผู้ป่วยธาลัสซีเมียประเภทเบต้าธาลัสซีเมียฮีโมโกลบินอีได้  ซึ่งในอนาคตสารสกัดดังกล่าวน่าจะสามารถนำไปใช้ในการพัฒนายารักษาโรคธาลัสซีเมียได้ต่อไป  กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากอาจารย์ทั้งจากคณะวิทยาศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นอย่างดี  โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 50 คนี

ข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งอื่นๆ :

          - ภาพจากงานวิจัย