logo


รางวัลเกียรติยศ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ศาสตราจารย์ ดร. วิทยา มีวุฒิสม
(Professor Dr. Vithaya Meevootisom)

รางวัลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมูลนิธิโทเร ประเทศไทย
ปี 2546 ประเภทบุคคล

 

เกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2492 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ภรรยา นางณัฐฐิฌา (ลุนสำโรง) มีวุฒิสม
บริหารธุรกิจบัณฑิต (สาขาการตลาด) (บธ.บ.) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
บุตร ด.ช. ณรงค์ฤทธิ์ มีวุฒิสม
ด.ญ. ณิชกมล มีวุฒิสม
ด.ช. ณชพน มีวุฒิสม

การศึกษา

พ.ศ. 2510-2514 วิทยาศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม) สาขาเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2514-2527 วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2517-2521 วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาจุลชีววิทยา มหาวิทยาลัยอินเดียน่า สหรัฐอเมริกา
พ.ศ. 2517-2528 ฝึกงานหลังปริญญาที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล สหราชอาณาจักร

 

ตำแหน่งปัจจุบัน ศาสตราจารย์ ระดับ 10 ภาควิชาจุลชีววิทยา
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ประวัติการทำงาน

พ.ศ. 2516-2523 อาจารย์โท ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2523-2526 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2526-2539 รองศาสตราจารย์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2534-2538 ผู้อำนวยการโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ สถาบันวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2539-2540 ศาสตราจารย์ ระดับ 9 ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2540-ปัจจุบัน ศาสตราจารย์ ระดับ 10 ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ที่ปรึกษาหน่วยงานรัฐ/เอกชน

พ.ศ.2530-2545 ที่ปรึกษา บริษัท Medegloves Ltd. (ผ่านระบบให้บริการวิชาการแก่หน่วยงานรัฐและเอกชนของมหาวิทยาลัย)
พ.ศ. 2532 ที่ปรึกษา UNESCO (Short-term Consultant เรื่องเทคโนโลยีชีวภาพที่ประเทศมาเลเซีย
พ.ศ. 2534-2535 ที่ปรึกษา บริษัท Hydrodyne Biotechnology (ผ่านระบบให้บริการวิชาการแก่หน่วยงานรัฐและเอกชนของมหาวิทยาลัย)
พ.ศ. 2535-2536 ที่ปรึกษา บริษัท T.C. Union Agrotech ในโครงการวิจัยการผลิตจุลชีพเพื่อใช้บำบัดน้ำเสีย (ผ่านระบบให้บริการวาการแก่หน่วยงานรัฐและเอกชนของมหาวิทยาลัย)
พ.ศ. 2541-ปัจจุบัน ที่ปรึกษา บริษัท กรีนการ์เดียน จำกัด และส่วนหนึ่งของงานที่ทำคือเป็น ผู้ร่วมดำเนินการ "ตอบปัญหาสุขภาพ" ที่สถานีวิทยุ วพท. AM stereo 792 MHz
พ.ศ. 2545-ปัจจุบัน ที่ปรึกษา บริษัท V.C.N. Manufacturing Co., Ltd. (ผ่านระบบให้บริการวิชาการแก่หน่วยงานรัฐและเอกชนของมหาวิทยาลัย)

รางวัลและเกียรติยศ

พ.ศ. 2510 ทุนการศึกษา SEATO
พ.ศ. 2514-2516 ทุนพัฒนาอาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล
พ.ศ. 2517-2524 ทุนการศึกษา The Rockefeller Foundation Fellowship
พ.ศ. 2527-2528 ทุนศึกษาต่อหลังปริญญา The Royal Society, Developing Country Fellowships Scheme (U.K)

ผลงานของ ศาสตราจารย์ ดร. วิทยา มีวุฒิสม
ด้านการวิจัย

ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา มีวุฒิสม เป็นผู้ที่ได้ทำงานวิจัยเกี่ยวข้องกับ การผลิตปฏิชีวนสารโดยจุลชีพ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่การเก็บตัวอย่างดินและอื่นๆ จากแหล่งต่างๆ มาแยกจุลินทรีย์และนำมาคัดเลือกสายพันธุ์ที่สามารถสร้างปฏิชีวนสารที่น่าสนใจ ทำให้สามารถค้นพบปฏิชีวนสารใหม่หลายชนิด ต่อมาได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเอนไซม์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตยาปฏิชีวนะ ชนิดเพนนิซิลลินและเซฟาโลสปอรินกึ่งสังเคราะห์ต่างๆ เนื่องจากได้เห็นความสำคัญของกระบวนการผลิต ที่จำเป็นต้องกระทำโดยให้เกิดมลภาวะน้อยที่สุด ซึ่งกระบวนการผลิตที่ใช้เอนไซม์จะมีความสำคัญมากขึ้น ในลักษณะของ green chemistry ตามลำดับ โดยในการวิจัยเริ่มตั้งแต่การผลิตสารตัวกลางสำคัญคือ ผลิต 6-aminopenicillanic acid (6-APA), 7-aminocephalosporanic acid (7-ACA) และ 7-aminodesacetoxycephalosporanic acid (7-ADCA) และรวมไปถึงสาร side chains ซึ่งได้แก่ D-phenylglycine และ D-p-hydroxyphenylglycine ในการศึกษาเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องนี้ ได้นำวิทยาการด้านพันธุวิศวกรรม และ Protein engineering มาร่วมในการวิจัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างเอนไซม์ และพัฒนาเอนไซม์ให้มีคุณสมบัติตามต้องการ และศึกษาวิธีการต่างๆ ทีใช้ในการตรึงเอนไซม์เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่อไป ผลการศึกษาวิจัยได้สามารถ clone ยีน penicillin acylase จาก Bacillus megaterium ได้เป็นคนแรก และยังทำการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการเพิ่มผลผลิต (yield) และการพัฒนาเอนไซม์ให้สามารถทำการตรึงเอนไซม์ในลักษณะต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดยความพยายามที่จะพัฒนากระบวนการผลิต 6-APA ในประเทศให้มีความเป็นไปได้สูงขึ้น ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา และคณะผู้วิจัย ได้ศึกษาการเปลี่ยน by-product ซึ่งคือ Phenylacetic acid ที่เกิดในกระบวนการผลิต 6-APA ไปเป็นสาร side chains ดังกล่าว ผลจากความพยายามทำให้ ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุเทพ ไวยครุฑธา ซึ่งขณะนั้นกำลังศึกษาระดับปริญญาเอก กับศาสตราจารย์ ดร. วิทยา ได้พบเอนไซม์ใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ยังไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน คือ D-phenylglycine aminotransferase ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในการเปลี่ยนโครงสร้างทาง stereo-isomer ของกรมอะมิโนแบบใหม่ โดยเอนไซม์นี้สร้างจากจุลชีพที่แยกได้จากดินในประเทศ ได้ทำการศึกษาเอนไซม์ D-phenlglycine aminotransferase ยีนของมันและรวมทั้งยีนส์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนศึกษาโครงสร้างสามมิติของเอนไซม์นี้ ซึ่งผลการศึกษาจะทำให้เข้าใจเหตุผลที่จุลินทรีย์สร้างเอนไซม์นี้ และเข้าใจกลไกการทำงานในลักษณะ stereo-inverting property ซึ่งความรู้ที่ได้จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ เช่น ในอุตสาหกรรมการผลิตสาร side chains ในลักษณะของ green chemistry เพื่อใช้ผลิตยาปฏิชีวนะกึ่งสังเคราะห์ในกลุ่ม Beta-lactams และการประยุกต์ใช้งานในแบบต่างๆ เช่น นำไปตรวจวิเคราะห์หาปริมาณกรดกลูตามิก เป็นต้น

งานวิจัยหลักอีกงานหนึ่งของศาสตราจารย์ ดร. วิทยา มีวุฒิสม และคณะผู้วิจัย เกี่ยวข้องกับ การผลิตสัตว์เศรษฐกิจ โดยได้พิจารณาเห็นว่า ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์เพื่อการบริโภคภายในประเทศ และการส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้นเมื่อกลับจากการศึกษาปริญญาเอกมาใหม่ๆ ได้ร่วมกับศาสตราจารย์ ดร.ทิม เฟลเกล และกรมปศุสัตว์ ในการศึกษาวิจัยการใช้เชื้อรา เพื่อเพิ่มโปรตีนในวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ โดยในการวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนจาก IDRC ต่อมาได้เล็งเห็นว่า แนวโน้มของการห้ามใช้ยาปฏิชีวนะผสมในอาหารสัตว์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของสัตว์จะมีมากขึ้น ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา และคณะผู้วิจัยได้เริ่มศึกษาวิจัยการใช้ yeasts และ lactic acid bacteria รวมทั้งการใช้เอนไซม์ต่างๆ ผสมในอาหารสัตว์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของสัตว์ ในลักษณะที่เป็น Probiotics ผลการศึกษาในขณะนั้นไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนนักเพราะมีตัวแปรมากมาย อีกทั้งเอกชนผู้ประกอบการในขณะนั้นยังนิยมใช้ยาปฏิชีวนะผสมในอาหารสัตว์ เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของสัตว์งาน ส่งผลให้งานวิจัยด้านนี้ไม่แพร่หลาย แต่ในปัจจุบันหลายประเทศมีการห้ามใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว ประเทศไทยเองก็มีงานวิจัยด้านการนำ Probiotics มาใช้เร่งการเจริญเติบโตของสัตว์มากขึ้น ซึ่งศาสตราจารย์ ดร.วิทยา และคณะผู้วิจัย ถือได้ว่าเป็นผู้ริเริ่มการศึกษาด้านนี้ในประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกๆ ขณะนี้ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา และคณะผู้วิจัย ยังได้เริ่มศึกษาการหาเอนไซม์จากจุลชีพที่ไม่สามารถเลี้ยงในอาหารเลี้ยงเชื้อในห้องปฏิบัติการได้ โดยจากความรู้ได้มีการประมาณการว่า ในธรรมชาติมีทั้งจุลินทรีย์ที่เพาะเลี้ยงได้และจุลินทรีย์ที่ไม่สามารถเลี้ยงได้ ซึ่งจุลินทรีย์ประเภทหลังนี้มีมากกว่า 99% ของจุลินทรีย์ที่มีทั้งหมด ดังนั้นการนำเทคนิคเมตาจีโนมิคที่มีการค้นพบใหม่ มาใช้หาเอนไซม์ที่ต้องการในการนำมาใช้เร่งการเจริญเติบโตของสัตว์ อาจนำไปสู่การค้นพบเอนไซม์ที่มีประโยชน์สูง และยังเปิดกว้างในการประยุกต์ใช้เอนไซม์ใหม่ๆ ในงานด้านอื่นๆ ด้วย

ด้านการศึกษา

ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา มีวุฒิสม ได้ร่วมในงานสอนและการจัดการด้านการสอนนิสิตนักศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี-โท-เอก ของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในสายงานด้านจุลชีววิทยา ทั้งทางการแพทย์และอุตสาหกรรม การสอนในระดับปริญญาตรีที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ จะสอนพื้นฐานทางจุลชีววิทยาแก่นักศึกษาแพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ รังสีเทคนิค สัตวแพทย์ สาธารณสุขและชีววิทยา ส่วนด้านอุตสาหกรรมจะสอนจุลชีววิทยาแก่นักศึกษาเทคโนโลยีชีวภาพ นอกจากการสอนนักศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์แล้ว ยังได้รับเชิญให้ไปสอนนักศึกษาในคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดล เช่น คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ และได้รับเชิญให้ไปสอนในมหาวิทยาลัยอื่นด้วย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยอัสสัญชัญ ส่วนในระดับปริญญาโท-เอก จะสอนจุลชีววิทยาแก่นักศึกษาจุลชีววิทยา เทคโนโลยีชีวภาพ พยาธิวิทยาคลินิก เทคนิคการแพทย์ และสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากงานสอนนักศึกษา ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา มีวุฒิสม ได้ร่วมเขียนตำราในบทที่เกี่ยวกับเชื้อราทางการแพทย์ ลงในตำราเรื่องจุลชีววิทยาทางการแพทย์

ด้านการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในอุตสาหกรรม

ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา มีวุฒิสม ได้ให้ความช่วยเหลือต่อภาคเอกชนในหลายด้าน ตั้งแต่การช่วยตรวจวิเคราะห์ด้านต่างๆ เกี่ยวกับจุลินทรีย์ ซึ่งรวมทั้งการหาปริมาณของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ การประเมินหาต้นเหตุที่เป็นแหล่งให้เกิดการปนเปื้อน และการแนะนำหรือหาวิธีกำจัดโดยกระบวนการต่างๆ เช่น การใช้ความร้อน สารเคมีที่เหมาะสม ตลอดจนทำการทดสอบประสิทธิภาพของสารเคมี (biocides) ในการทำลายเชื้อ ศาสตราจารย์ ดร.วิทยา มีวุฒิสม ได้เป็นที่ปรึกษาของบริษัทหลายแห่ง ทั้งด้านการแก้ปัญหา การฝึกอบรมบุคลากรของบริษัท ทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติในงานด้านจุลินทรีย์และการทำให้ปราศจากเชื้อ การร่วมให้คำปรึกษากับบริษัท เพื่อให้ผ่านระบบมาตรฐานต่างๆ และรวมทั้งเพื่อการส่งออก และได้ร่วมงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์ช่วยกำจัดมลพิษเพื่อจำหน่ายในประเทศ โดยผลงานที่ได้ร่วมมือกับบริษัทต่างๆนี้ ทำให้บริษัทได้เพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร ทราบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้น หรือที่นำเข้าจำหน่าย สามารถแก้ปัญหาในระบบการผลิตทำให้ลดความสูญเสีย สามารถผ่านระบบมาตรฐานต่าง เช่น ISO 9001, CE mark หรือผ่านการตรวจสอบของ USFDA เพื่อการส่งออกและการผลิตภัณฑ์ BIOCLEAN ช่วยกำจัดมลพิษในบ่อเลี้ยงกุ้งและบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อจำหน่ายในประเทศ

กิตติกรรมประกาศของศาสตราจารย์ ดร.วิทยา มีวุฒิสม

ความสำเร็จของผลงานที่ได้มีมานั้นเป็นผลจากการที่มีทั้งเพื่อนร่วมงานที่ดี นักศึกษาที่มีความสามารถมาช่วย อีกทั้งผู้บริหารในระดับต่างๆ ของมหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ได้ให้ความสนับสนุนด้วยดีตลอดมา นอกจากนี้ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณอาจารย์ทั้งหลาย ที่ได้ประสิทธิประสาทวิชาความรู้แก่ข้าพเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านศาสตราจารย์ ดร. นพ. พรชัย มาตังคสมบัติ ซึ่งเป็นทั้งครู อาจารย์ ที่นอกจากจะให้ความรู้แล้ว ยังได้ให้ความช่วยเหลือแนะนำในงานวิจัยและอื่นๆ ตลอดมา และขอขอบพระคุณ ศาสตราจารย์ ดร. ยอดหทัย เทพธรานนท์ ที่ได้กรุณาให้ความช่วยเหลืองานด้านเคมีวิเคราะห์และเคมีสังเคราะห์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในงานวิจัยที่ข้าพเจ้าได้ดำเนินงานมาโดยตลอด ซึ่งนอกจากท่านจะแนะนำให้ทำแล้ว ยังช่วยจัดการทำให้เป็นส่วนใหญ่ โดยไม่ได้ให้ข้าพเจ้าช่วยจ่ายค่าสารเคมีที่ใช้หรืออื่นๆ อีกท่านหนึ่งที่ต้องขอขอบพระคุณคือ ศาสตราจารย์ ดร. อมเรศ ภูมิรัตน ผู้ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือต่างๆ ในช่วงแรกของงานวิจัยของข้าพเจ้า ทำให้การทำงานวิจัยสะดวกราบรื่นขึ้น และเป็นส่วนที่ทำให้รักงานวิจัยมากขึ้น ขอขอบคุณองค์กรที่ได้ให้ทุนวิจัยสนับสนุนในการทำวิจัย โดยมีสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ คณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STDB) ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย องค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล, IDRC, IFS, และ TWAS ที่มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากที่ให้งานวิจัยดำเนินไปด้วยดี

ข้าพเจ้าขอขอบคุณผู้เสนอชื่อข้าพเจ้าเพื่อเข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรตินี้ และคณะกรรมการทุกท่านที่ได้พิจารณาให้รางวัลนี้แก่ข้าพเจ้า ขอขอบคุณมูลนิธิโทเร เพื่อการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และกลุ่มบริษัทโทรเรในประเทศไทย ที่สนับสนุนเพื่อสร้างความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่ประเทศไทย ขอขอบคุณฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่ให้ความช่วยเหลือในการจัดทำเอกสารนี้ ท้ายสุดขอขอบคุณคุณพ่อและคุณแม่ที่ได้เลี้ยงดู ให้การศึกษา อบรมให้มีคุณธรรม จริยธรรม ขอบคุณคุณณัฐฐิฌา และลูกๆ ที่เป็นกำลังใจที่สำคัญ

 


 

จากหนังสือ :
รางวัลนักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Awards)
[กรุงเทพฯ] : มูลนิธิโทเร เพื่อการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ ประเทศไทย
2546. ISBN 974-229-566-2