ประวัติส่วนตัว
เกิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.
2485 ที่ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี
จังหวัดสิงห์บุรี สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมต้นจากโรงเรียนประจำจังหวัดสิงห์บุรี
และมัธยมปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
ปริญญาตรีทางเคมี (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง)
จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
และปริญญาเอกทางด้านเคมีอินทรีย์
จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เมืองเมดิสัน
ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2509
และ พ.ศ. 2517 ตามลำดับ ในปี พ.ศ.
2540 ได้รับพระราชทานปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
สาขาเคมี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
สมรสกับนางแสงโสม (วิเชียรโชติ) ริ้วตระกูล
มีธิดา 2 คน คือ แพทย์หญิงสิริมนต์
ประเทืองธรรม และนางมนฑิรา ทวีสิน
ประวัติการทำงาน
เริ่มรับราชการเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2514 จนถึงปัจจุบัน โดยได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์
รองศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ระดับ
11 ในปี พ.ศ. 2519, 2522, 2527 และ
2545 ตามลำดับ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาเคมี
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในปี
พ.ศ. 2537-2545 นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งต่าง
ๆ อาทิ ประธานคณะกรรมการจัดการประชุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ครั้งที่ 17 และ 18 ที่ปรึกษาชั่วคราวของ
HRP/WHO และประธานของ The steering
committee of WHO task force on plants
for fertility regulation กรรมการสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
ระหว่างปี พ.ศ. 2539-2542 กรรมการในคณะกรรมการอุดมศึกษาเอกชน
ทบวงมหาวิทยาลัย และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสภาวิชาการ
สภาสถาบันราชภัฏ ระหว่างปี พ.ศ. 2541-2543
ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการพิจารณาขอเปิดดำเนินการหลักสูตรและการรับรองมาตรฐานการศึกษา
สาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและเทคโนโลยี
ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ทบวงมหาวิทยาลัย
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักวิจัย
และพัฒนามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
และประจำสำนักวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ที่ปรึกษาและผู้ประสานงานด้านความร่วมมือต่างประเทศและวิชาการ
โครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก สกว. ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาบัณฑิตศึกษาและการวิจัยทางเคมี
(Postgraduate Education and Research
Program in Chemistry-PERCH) ซึ่งเป็น
Consortium การผลิตนักศึกษาและงานวิจัยทางเคมี
ร่วมกัน 5 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยมหิดล
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
กรรมการในกองบรรณาธิการเกียรติคุณ ของวารสารสงขลานครินทร์
ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ได้รับรางวัลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมูลนิธิโทเรเพื่อการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
ประเภทบุคคล ประจำปี พ.ศ. 2538 ได้รับเลือกเป็นเมธีวิจัยอาวุโส
สกว. พ.ศ. 2539-2546 ได้รับรางวัลผลงานวิจัยเกียรติยศ
สกว. 2545 ในด้านที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ
เป็นผู้ประสานงานและดำเนินการควบคุมการวิจัยของโครงการแลกเปลี่ยน
ระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดลกับประเทศบังคลาเทศ
และประเทศศรีลังกา โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศสวีเดน
เป็นที่ปรึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ของ
International Foundation for Science
(IFS), The Asian Network of Research
on Antidiabetes Plants (ANRAP) และ
International Program in the Chemical
Sciences (IPICS) เป็น Editorial
Board และ Associate Editor ของ Asian
Journal of Andrology และ Pharmaceutical
Biology ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังเป็นเครือข่ายและผู้ประสานงานเครือข่ายเคมีผลิตภัณฑ์ธรรมชาติประเทศไทย
ขององค์การยูเนสโก ปี พ.ศ. 2545-2548
สำหรับทุนวิจัย ศาสตราจารย์ ดร.วิชัย
ริ้วตระกูล ได้รับทุนสนับสนุนวิจัยจากทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
อาทิ เช่น จากองค์การอนามัยโลกทางด้าน
male and female fertility regulation
จาก CONRAD, USAID ทางด้าน male fertility
regulation จาก International Foundation
For Science (IFS) ทางด้าน bioactive
natural products ในขณะนี้ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
(สกว.) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
โครงการพัฒนาบัณฑิตและการวิจัยทางเคมี
(Postgraduate Education and Research
Program in Chemistry - PERCH) และ
International Program in Chemical
Sciences (IPICS)
ผลงานวิจัยโดยสรุป
ศาสตราจารย์
ดร.วิชัย ริ้วตระกูล ทำหน้าที่ควบคุมวิจัยของนักศึกษาในระดับปริญญาตรี
โทและเอก ได้ผลิตนักศึกษาภายใต้การ
supervision ในระดับปริญญาโท 42 คน
และปริญญาเอก 5 คน ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารนานาชาติ
90 เรื่อง จดสิทธิบัตรในระดับนานาชาติ
1 เรื่อง ในระหว่างปี พ.ศ. 2534-2545
มีผลงาน 83 เรื่อง ได้รับการอ้างอิงเป็นจำนวน
610 ครั้ง ผลงานวิจัยทำให้ศาสตราจารย์
ดร.วิชัย ริ้วตระกูล ได้รับเชิญให้เป็น
invited และ plenary speakers ในการประชุมนานาชาติอย่างสม่ำเสมอ
งานวิจัยที่สำคัญเน้นทางด้านเคมีอินทรีย์สังเคราะห์
(organic synthesis) และสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ
(bioactive natural products) การวิจัยทางด้าน
organic synthesis เป็นงานวิจัยพื้นฐานของสารประเภท
a- haloalkyl aryl sulfides, sulfoxides
และ sulfones งานวิจัยนี้ได้นำไปสู่การค้นพบปฏิกิริยาเคมีที่สำคัญและใหม่
อาทิ ปฏิกิริยาที่นำมาใช้ในการสังเคราะห์สารประเภท
vinyl halides (chloride, bromide,
iodides และ fluorides), activated
cyclopropanes, piperidines derivatives,
protoberberine, benzazepine ปฏิกิริยา
Aldol-Tischenko ของ samarium dienolate
และปฏิกิริยาของ a-phenylsulfonyl,
a,a' -difluorophenylthio radicals
สารประเภท organofluorines เป็นสารที่เตรียมยากและมีประโยชน์มาก
ในทางอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัสดุชนิดใหม่และเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยา
งานวิจัยทางด้านนี้ได้ค้นพบวิธีใหม่ๆ
ที่ใช้สังเคราะห์สารประเภทดังกล่าวได้
นอกจากนี้ยังได้ศึกษาการสังเคราะห์สารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ
(bioactive natural products) หลายตัว
เช่นสารในกลุ่ม diarylheptanoids
สารกลุ่ม butenolides จาก Melodorum
fruticosum สารกลุ่ม pyrano naphtho-quinones
และสารประเภท "caged xanthones"
โครงการ drug discovery ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวข้องกับการศึกษา
และค้นหาสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ
เพื่อนำมาเป็นสารโครงสร้างนำ (lead
structures) ในการพัฒนายา โครงการฯ
ครอบคลุมสารชนิด non-steroidal ที่มีฤทธิ์แก้อาการอักเสบทั้งชนิดกินและชนิดทา
(non-steroidal topical and oral anti-inflammatory
agents) สารฆ่าเซลล์มะเร็ง สารฆ่าเชื้อไวรัส
HIV และสารที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการควบคุมการเจริญพันธุ์ในเพศชาย
การพัฒนาโครงการนี้ได้นำไปสู่การพัฒนาห้องปฏิบัติการการทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพ
ที่ได้มาตรฐานทางด้าน anti-inflammatory
และ antifertillity (male and female)
activities ที่ภาควิชาเภสัชวิทยา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
การทดสอบ cytotoxic, antimitotic และ
anti-HIV activities ที่ภาควิชาสรีรวิทยาและจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตามลำดับ
การศึกษานี้ได้พบสารใหม่ประเภท arylbutanoids,
diarylheptanoids และ xanthones ที่มี
anit-inflammatory activity สาร seco-cycloartanes,
xanthones, cyclichexapeptides และ
flavonoids มี cytotoxic activity ที่ดีมาก
นอกจากนี้ยังพบว่าสาร flavonoid, caged
xanthone และ cyclichexapeptide มี
antitumor activity ในสัตว์ทดลองสารเหล่านี้มีศักยภาพที่จะเป็นสารโครงสร้างนำ
(lead structures) ในการพัฒนาเป็นสารรักษาโรคมะเร็ง
สารใหม่ประเภท pyranonaphtooquinones
และ cycloartane derivatives แสดงฤทธิ์ที่ดีในการฆ่าเชื้อโรค
AIDS (MC99) และมีศักยภาพที่ดีจะพัฒนาต่อเป็นยารักษาโรค
AIDS สาร pyranonaphthoquinone 1 ชนิดที่มี
anti-HIV activity ได้ผ่านการศึกษาทางด้านพิษวิทยา
(preclinical toxicology) บางส่วนและผลเป็นที่น่าพอใจ
จากการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พบว่าสาร
triptolide ซึ่งมี male antifertility
activity นั้น เป็นสารที่ non-mutagenic
จากการทำ mutegenicity assay ภายใต้สภาพ
GLP การวิจัยสารนี้ในลิง marmoset ตัวผู้
พบว่าสาร triptolide สามารทำให้ลิง
marmoset เป็นหมันแบบชั่วคราว (reversible)
จำนวน sperm ของลิง marmoset เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับเหมือนก่อน
treatment หลังจากที่หยุดการใช้สาร
triptolide 6 อาทิตย์ เท่าที่ได้ศึกษามาจนถึงขณะนี้
ไม่พบความเป็นพิษของสารนี้ต่อสัตว์ทดลอง
นับได้ว่าสาร triptolide เป็นสารตัวแรกที่มีฤทธิ์
male antifertility ที่ได้ผ่านการทดสอบทาง
preclinical toxicology และการศึกษาฤทธิ์ใน
primate ได้เป็นที่น่าพอใจ บางส่วนของงานวิจัยนี้ได้ถูกนำไปเผยแพร่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์
BBC Word ผ่านดาวเทียมในรายการ Tomorrows
World: Vision of the Future เมื่อเดือนเมษายน
ปี พ.ศ. 2540
งานวิจัยในอนาคต
งานวิจัยที่จะทำในอนาคต เป็นงานวิจัยพื้นฐานแบบกำหนดทิศทาง
(directed basic research) ซึ่งจะมุ่งเน้นทั้งสร้างองค์ความรู้ใหม่
การศึกษาวิจัยในเรื่องที่อาจจะนำผลงานไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และเชิงสาธารณะได้
งานวิจัยแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือการวิจัยพื้นฐานแบบกำหนดทิศทางด้านเคมีอินทรีย์สังเคราะห์
(directed exploratory research I
basic synthetic organic chemistry)
ส่วนที่สองคือการวิจัยในโครงการ drug
discovery ซึ่งเป็นการศึกษาแบบกำหนดทิศทาง
เพื่อจะมุ่งเน้นหาสารต้นแบบ (lead
structures) ที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพจากธรรมชาติ
(directed exploratory research in
bioactive natural products) ที่มีฤทธิ์
antitumor, anti-HIV, anti-inflammatory,
antimicrobial และ antioxidant activites
เพื่อจะนำมาใช้เป็น lead structures
ในการพัฒนาเป็นยาต่อไป
งานวิจัยทางด้านเคมีอินทรีย์สงเคราะห์จะศึกษาการใช้ปฏิกิริยา
Aldol-Tischenko ของ samarium enolate
และ dienolate ในการสังเคราะห์ 1,3-diol
และ 1,3-amino alcohol units สารประกอบทั้งสองชนิดดังกล่าว
พบมากในสารที่ออกฤทธิ์ทางธรรมชาติ
สารประกอบประเภทที่มี fluorine atom
อยู่โมเลกุลมีประโยชน์ทั้งในทางอุตสาหกรรมและการแพทย์
การศึกษาวิจัยในโครงการนี้จะมุ่งเน้นการวิจัยโดยใช้ปฏิกิริยา
radical เช่น ใช้ inter-mediate 1,1-difluorophenyl-1-thiomethyl
radical ในการสังเคราะห์สารประกอบที่มี
fluorine อยู่ในโมเลกุล
ในด้านการสังเคราะห์ bioactive
natural products จะดำเนินการศึกษาการสังเคราะห์สารประเภท
pyrano naphthoquinones ที่มีฤทธิ์
anti-HIV และสารประเภท cage xanthones
ที่มีฤทธิ์ antitumor การศึกษาในโครงการ
drug discovery จะมุ่งเน้นการหาสารต้นแบบ
(lead structures) จากพืชที่มีฤทธิ์ดังกล่าวข้างต้น
งานวิจัยบางส่วนเป็นงานต่อเนื่องและบางส่วนเป็นงานใหม่ที่จะเริ่มขึ้น
พืชที่จะนำมาทำการวิจัย จะเก็บสำรวจจากป่าในส่วนต่างๆ
ของประเทศโดยจะให้ความสำคัญกับพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศ
(endemic species) พืชในสกุล Gardenia,
Polyalthia, Garcinia veatilago และพันธุ์พืช
Ventilago harmandiana, Garcinia
speciosa, Garcinia hanburyi, Mallotus
spodocarpus, Ochna intergerrima
และ Diospyros variegata สารบริสุทธิ์บางตัวที่แยกได้จากต้น
Ventilago harmandiana และ Mallotus
spodocarpus มี anti-HIV และ antitumor
activity ที่น่าสนใจและมีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นสารต้นแบบ
สำหรับเป็นยาใช้เกี่ยวกับโรค AIDS
และโรคมะเร็งต่อไปตามลำดับ
นอกจากนี้การวิจัยดำเนินการหาสารพวกที่มี
anti-inflammatory, antioxidant และ
antimicrobial activity ซึ่งอาจจะนำมาพัฒนาใช้เป็น
cosmeceuticals. topical และ oral
nonsteroidal anti-inflammatory drugs
และใช้เกี่ยวกับ postharvest technology
การดำเนินการวิจัยในโครงการ drug
discovery จะประกอบด้วยเครือข่ายของนักวิจัยจากหอพันธุ์ไม้
กรมป่าไม้ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
และสถาบันราชภัฏสุราษฎร์ธานี
การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
1. งานวิจัยทางด้าน directed exploratory
research in bioactive natural products
อาจจะนำไปสู่สารต้นแบบ (lead structures)
ซึ่งสามารถนำมาจดสิทธิบัตร ซึ่งจะเข้าไปสู่การพัฒนาในเชิงพาณิชย์และเชิงสาธารณประโยชน์ในอนาคต
2. การพัฒนาสารประเภทที่มีฤทธิ์ทางด้าน
anti-inflammatory antimicrobial
และ antioxidant activities มีความเป็นไปได้สูงที่จะนำสารประเภทนี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน
อาทิ เครื่องสำอาง สารที่ใช้ในเรื่องการรักษาผลไม้สดอยู่ได้นานขึ้น
ตัวอย่างที่การพัฒนาการถ่ายทอดความรู้และสร้างนวัตกรรม
เพื่อประโยชน์ในเชิงสาธารณะ (public
benefits) ที่จะเริ่มเป็นรูปธรรม
คือการพัฒนาสารจากไพล (Zingiber cassummunar)
ที่อาจจะใช้ใน cosmeceutical products
ต่างๆ ในนามของ Plaitanoids
จากหนังสือ :
เมธีวิจัยอาวุโส สกว. 2546. กรุงเทพฯ
: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย,
2546. |