ผลงานวิจัยที่ได้รับประโยชน์


การวิจัยเพื่อกำหนดมาตรฐานยางล้อตัน

การพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ยางมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นการให้ความคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยและสนับสนุนการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของของประเทศอีกด้วย ยางล้อตันสำหรับรถฟอร์กลิฟต์เป็นยางล้อรถประเภทที่ใช้ยางธรรมชาติในการผลิตสูงเมื่อเทียบกับยางล้อประเภทใช้ลม คือใช้ยางธรรมชาติประมาณ 30 กิโลกรัม/เส้น ในขณะที่ยางล้อรถประเภทใช้ลมใช้ยางธรรมชาติเพียง 8 กก./เส้น ในแต่ละปีประเทศไทยใช้ยางธรรมชาติเพื่อการผลิตยางล้อรถตันประมาณ 12,960 ตันต่อปี โดยเป็นการผลิตเพื่อใช้ในประเทศประมาณ 216,000 เส้นต่อปี ที่เหลือเป็นการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีการส่งออกไปยังแถบยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น โดยมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี ปัจจุบันการใช้ยางล้อตันสำหรับรถฟอร์กลิฟต์มีปริมาณการใช้มากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ยังไม่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยางล้อตันในประเทศ ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของยางล้อตันสำหรับรถฟอร์กลิฟต์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานต้องอาศัยเพียงข้อกำหนดด้านคุณภาพของบริษัทผู้ผลิตหรือข้อกำหนดคุณภาพที่เคยใช้กันมาตั้งแต่อดีต ซึ่งมักจะใช้แต่ของบริษัทที่มาจากต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้งานวิจัยนี้จึงมีจุดประสงค์หลักเพื่อจัดทำร่างมาตรฐานยางล้อตันสำหรับรถฟอร์กลิฟต์เพื่อให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ประกาศใช้เป็นมาตรฐานของประเทศ

Solid Tyre Solid Tyre ผลงานวิจัย

ได้จัดทำร่างมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมยางล้อตันสำหรับรถฟอร์กลิฟต์ โดยทำการทดสอบยางล้อตันในตลาดขนาด 6.00-9 และ 7.00-12 ซึ่งผลิตโดยบริษัทคนไทย 4 บริษัทและบริษัทต่างชาติ 6 บริษัท ทางด้านความแข็ง มิติและความทนทานต่อการใช้งานโดยใช้เครื่องทดสอบแบบดรัมที่ความเร็วต่างๆและน้ำหนักที่ใช้กด วัดระยะเวลาที่ยางล้อตันสามารถวิ่งได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหายเช่นการบวมที่แก้มยางหรือหน้ายางหรือการระเบิด แล้วนำผลการศึกษาไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปที่จะนำมากำหนดเป็นร่างมาตรฐาน

การนำไปใช้ประโยชน์

ร่างมาตรฐานที่ได้จัดทำขึ้นได้ส่งมอบให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) นำไปจัดทำเป็นมาตรฐานยางล้อตันสำหรับรถฟอร์กลิฟต์ มอก. 2668-2558 และประกาศใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558