ผู้ดำเนินการร่วม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงชีวิตของเราล้วนต้องเคยบริโภคหรือใช้ข้าวของที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากสารเคมี ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ซึ่งในการสังเคราะห์สารหนึ่งชนิดจะต้องมีสารเคมีตั้งต้นมาทำปฏิกิริยาและให้ผลผลิตที่ต้องการออกมา แต่บางปฏิกิริยาถ้าปล่อยให้เกิดเองตามธรรมชาติอาจเป็นไปได้ยากหรือใช้เวลานาน จึงต้องอาศัยตัวเร่งปฏิกิริยามาช่วยให้กระบวนการเกิดปฏิกิริยาเกิดได้ง่ายและเร็วขึ้น
การสังเคราะห์อิมีน (Imine) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในกระบวนการผลิตสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และสารเคมีทางการเกษตร (Agrochemicals) ก็เป็นหนึ่งในกระบวนการที่จำเป็นต้องใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา ปัจจุบันกระบวนการนี้ใช้กรดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อส่งแวดล้อม และยังมีข้อจำกัดคือสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว เนื่องจากตัวเร่งปฏิกิริยากับสารตั้งต้นอยู่ในสถานะที่เป็นของเหลวเหมือนกัน (Homogeneous Catalysis) ทำให้การแยกตัวเร่งปฏิกิริยากลับมาใช้ซ้ำทำได้ยาก
ในงานวิจัยนี้ นักเคมีจึงได้พัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีสถานะแตกต่างจากสารตั้งต้น หรือ ตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธุ์ (Heterogeneous Catalysis) ออกมาในรูปแบบเม็ดบีดคอปเปอร์/ไคโตซาน (Cu/chitosan) ซึ่งมีสถานะเป็นของแข็ง สามารถแยกจากของเหลวได้ง่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และราคาไม่แพง
โดยใช้คอปเปอร์ หรือทองแดง ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีความเรียบง่าย และเร่งปฏิกิริยาได้ดี นำมาจับคู่กับไคโตซาน ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ธรรมชาติที่สามารถสกัดได้จากเปลือกกุ้ง หรือกระดองปู ที่มีโครงสร้างสามารถจับกับคอปเปอร์ได้ดี และออกแบบระบบที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ในการเตรียมเม็ดบีดคอปเปอร์/ไคโตซาน
ผลการทดลองเตรียมเม็ดบีดคอปเปอร์/ไคโตซาน พบว่าสถานะออกซิชันของคอปเปอร์และชนิดไอออนลบในสารตั้งต้นมีผลต่อลักษณะสัณฐานของเม็ดบีดที่เตรียมได้และประสิทธิภาพในการเร่งปฏิกิริยาสังเคราะห์อิมีน โดยในกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา เม็ดบีดที่เตรียมจากคอปเปอร์อะซิเตทให้ผลการเร่งปฏิกิริยาดีที่สุด อีกทั้งยังความเสถียรและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่า 10 ครั้งอีกด้วย
ในอนาคตทีมวิจัยมีแผนจะพัฒนาเม็ดบีดให้มีอายุการใช้งานและความทนทานมากขึ้น โดยเสริมความแข็งแรงเชิงกลของไคโตซานด้วยเส้นใยธรรมชาติ เช่น เซลลูโลส เพื่อขยายผลการใช้งานกับปฏิกิริยาเคมีอื่น ๆ ที่มีสภาวะรุนแรง เช่น มีความเป็นกรด-เบสสูง อุณภูมิสูง เป็นต้น
โดยสรุปแล้วการวิจัยนี้เป็นการพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ง่าย ลดการปล่อยของเสียสู่สิ่งแวดล้อม รวมถึงลดต้นทุนในการผลิต นับเป็นการสร้างทางเลือกในการจัดการอย่างยั่งยืนและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบทางลบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมในอนาคต
สร้างหลักประกันให้มีแบบแผนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
(Ensure sustainable consumption and production patterns)
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |